column-number1-photo-cover.png

เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “โอมิครอน” โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่ทุบสถิติการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ที่ระบาดก่อนหน้านี้ได้อย่างราบคาบ ปกติโปรตีนหนามของไวรัสโควิดที่กลายพันธุ์เพียง 3 ตำแหน่ง ก็นับว่าน่ากังวลมากพอแล้ว แต่เจ้าโอมิครอนดันเหนือชั้นกว่าไปอีกหลายขั้นเลยค่ะ เพราะโปรตีนหนามของมันที่ใช้ยึดจับกับเซลล์ร่างกายของมนุษย์ เกิดการกลายพันธุ์แบบไฮสปีด ทะยานขึ้นไป 30 กว่าตำแหน่งเลยทีเดียว!! ทำให้แพร่เชื้อง่ายสุดๆ และติดเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2 – 5 เท่า แถมยังหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นยังทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงอีกด้วย คนที่เคยติดแล้วก็ติดซ้ำได้ง่าย (เก่งขนาดนี้ พี่เดลตาคงต้องชิดซ้ายแล้วแหละ) ซึ่งจากที่คิดว่าเข็ม 3 นั้นยังอีกไกล หลายประเทศจึงเริ่มตื่นตัวและทบทวนแผนใหม่ เริ่มหันมาเร่งฉีดเข็ม 3 หรือที่เราเรียกว่า เข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ว่าแต่วัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นสำคัญอย่างไร เราไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
วัคซีนเข็มกระตุ้น เกราะป้องกันโควิดสายพันธุ์ใหม่
จริงอยู่ที่วัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 กระตุ้นภูมิคุ้มกันของเราให้ต่อสู้กับเชื้อโควิดได้ ทั้งยังช่วยลดอาการป่วยที่รุนแรงและอัตราการตาย แต่ทว่าหลังจากฉีดไปแล้ว 3 – 6 เดือน ภูมิคุ้มกันนี้จะค่อยๆ ลดลงตามธรรมชาติ อีกทั้งการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ๆ ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง พร้อมสู้กับเชื้อโควิดได้ตลอดเวลา การฉีดเข็มกระตุ้นจึงจำเป็นอย่างมาก จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า การฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิด mRNA จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง สามารถป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนได้มากถึง 90%
แต่ด้วยความที่ประเทศเรา มีสูตรการฉีดวัคซีน 2 เข็มแรกที่หลากหลายชนิด เช่น ฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันทั้งสองเข็ม หรือใช้วัคซีนต่างชนิดฉีดไขว้กัน ฉะนั้นคนที่ฉีดครบโดสแล้วก็อาจจะงงๆ ว่าเข็มกระตุ้นต้องฉีดวัคซีนชนิดไหนกันแน่ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดระยะเวลาในการฉีดเข็มกระตุ้น ให้ทุกคนนำไปใช้เป็นแนวทางดังนี้ค่ะ
- ฉีด AstraZeneca 2 เข็ม ให้เข็มกระตุ้นเป็น mRNA ห่างจากเข็มสุดท้าย 3 เดือนขึ้นไป
- ฉีด Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม ให้เข็มกระตุ้นเป็น AstraZeneca ห่างจากเข็มสุดท้าย 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- ฉีด AstraZeneca + mRNA ให้เข็มกระตุ้นเป็น mRNA ห่างจากเข็มสุดท้าย 6 เดือนขึ้นไป
- ฉีด mRNA 2 เข็ม ให้เข็มกระตุ้นเป็น mRNA ห่างจากเข็มสุดท้าย 6 เดือนขึ้นไป
- ฉีด Sinovac + AstraZeneca ให้เข็มกระตุ้นเป็น AstraZeneca ห่างจากเข็มสุดท้าย 3 เดือนขึ้นไป
- ฉีด AstraZeneca + mRNA ให้เข็มกระตุ้นเป็น mRNA ห่างจากเข็มสุดท้าย 6 เดือนขึ้นไป
column-number1-photo-insert.jpg

ภายหลังจากฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว แต่ละคนอาจมีอาการข้างเคียงแตกต่างกันไม่มากก็น้อย หรือบางคนอาจไม่มีเลยก็ได้ แต่อาการที่มักพบบ่อยได้แก่ ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ต่ำๆ ซึ่งเมื่อมีอาการนี้ สามารถกินยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มก. ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมงได้เลยค่ะ
แม้ตอนนี้จะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ทำให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้นหรือไม่เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา แต่เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ เราไม่ประมาทจะดีที่สุดค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมท่องประโยคนี้ให้ขึ้นใจนะคะ “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”
ตรวจสอบเนื้อหาโดย
พญ.ปรารถนา ปันทะ
นายแพทย์ชำนาญการ
ข้อมูลอ้างอิง
https://bit.ly/3AaZcPz
https://bit.ly/3fCeBz6
https://www.who.int/thailand/news/detail/29-11-2021-Update-on-Omicron
https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/variants/omicron-variant.html