Skip to main content
Search
Search

ฝนตก รถติด เด็กเปิดเทอม รับมือกับปัญหาปวดกล้ามเนื้อจากการขับรถนานยังไงดี

topic_4_cover.jpg

 

 

ปัญหาการจราจรติดขัดในประเทศไทยทำให้เราเสียทั้งเวลาและสุขภาพไปแบบฟรีๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน และช่วงที่นักเรียนกำลังเปิดเทอมแบบนี้ทำให้มีผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ หลายคนจึงจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่บนรถเป็นนานกว่าปกติ จนทำให้เกิดความเครียดและอาการปวดหลัง แถมยังร้าวไปถึงขา!

การนั่งขับรถนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อ Piriformis ในอุ้งเชิงกรานเกิดการตึงตัวและหดเกร็งจนไปเบียดเส้นประสาท Sciatic ทำให้มีอาการปวดสะโพกลึกๆ ร้าวลงขาด้านหลัง และบางทีก็มีอาการชาที่ขาเข้ามาแจมอีกด้วย!

แล้วจะรับมืออย่างไร? ในเมื่อฝนยังตกไม่เป็นเวลา ลูกยังต้องไปโรงเรียน และประเทศไทยยังคงแก้ปัญหารถติดไม่ได้ในวันนี้พรุ่งนี้แน่ๆ แต่อย่าเพิ่งท้อ! เพราะบทความนี้พอจะมีทางออกให้คุณ และนี่คือ 4 วิธี ลดปัญหาอาการปวดกล้ามเนื้อขณะขับรถด้วยตัวเอง มาลองทำตามกันเลย

1. เลี่ยงเวลาเดินทางให้ไม่ชนกับช่วงรถติด

ประเทศไทยรถติดตลอดเวลาก็จริง แต่จะมีแค่บางช่วงเวลาเท่านั้นที่ติดหนักมาก คือ ช่วง 07.00 - 08.30 น. เช้าก่อนเข้างาน ช่วงเย็น 17.00 - 19.00 น. หลังเลิกงาน ลองปรับเวลาเดินทางโดยเลี่ยงช่วงเวลาเหล่านี้ เช่น ออกจากบ้านให้เช้าขึ้น แล้วไปงีบรอที่ทำงาน หรือ แวะเดินห้างใกล้ๆ แล้วกลับบ้านให้ดึกกว่าเดิม ก็อาจจะช่วยให้คุณไม่เสียเวลาไปกับรถติดได้

2. ปรับอิริยาบถและพฤติกรรมการขับรถ

ลองแก้ที่สาเหตุ ซึ่งก็คือท่าขับรถ โดยการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน และนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งหลังไม่ติดเบาะ และการนั่งห่างหรือชิดพวงมาลัยมากเกินไป เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหลังและขาทำงานหนักจนเกิดอาการปวดตึงได้ ลองปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม คือ ปรับเบาะให้พอดี ขยับให้ก้นชิดเบาะให้แผ่นหลังแนบไปกับพนักพิง ปรับความสูง-ต่ำ ความเอียงของพนักพิงให้พอดี รวมทั้งปรับกระจกส่องข้างและกระจกมองหลังให้อยู่ในระยะที่สายตามองเห็นได้ โดยไม่ต้องขยับศีรษะหรือโยกตัวมากนัก วางเท้าให้พอดีกับคันเร่งและเบรค เพื่อให้ขยับขาและข้อเท้าไปมาได้สะดวก นั่งลำตัวตั้งตรง จัดท่าทางโดยวางแขนและไหล่ให้จับพวงมาลัยได้แบบสบายๆ หากต้องขับรถระยะไกล ควรเผื่อเวลาแวะพักทุก 1 ชั่วโมง หรือยืดตัวเอนหลังบ่อยๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อพักและได้เคลื่อนไหวในท่าอื่นบ้าง

3. เมื่อยตรงไหนให้นวด

ในขณะที่ขับรถอาจจำเป็นต้องใช้สายตามากเพราะต้องเพ่งมองไปข้างหน้าและจดจ่อกับการขับรถอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้กล้ามเนื้อตาและบริเวณคอต้องทำงานหนักจนทำให้เกิดอาการปวดและเมื่อยล้าได้ ในช่วงติดไฟแดงอาจใช้เวลาเล็กน้อยนวดคั้นบริเวณคอ บ่า และไหล่ทั้ง 2 ข้าง หมุนศีรษะขยับไปมา หากมีอาการปวดเมื่อยแขน ขา ก็สามารถกดนวดหรือทุบเบาๆ บริเวณที่ปวด เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึงคลายตัวได้ชั่วขณะ หากไม่สะดวกสามารถซื้อเครื่องนวดพกพาติดรถไว้ หรือถ้าหากใครมีคนข้างๆ ก็ขอให้ช่วยนวดคลายปวดได้นะ

4. ทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล

การจราจรที่ติดขัด และพฤติกรรมการขับรถแย่ๆ ของเพื่อนร่วมทาง นอกจากมีส่วนให้ปวดกล้ามเนื้อแล้ว ยังทำให้เกิดความเครียด แบบ “หัวจะปวด” ขึ้นมาได้ด้วย! อย่าลืมพกยาแก้ปวดพาราเซตามอลไว้ในกระเป๋าอยู่เป็นประจำ (ก็ยาไทลินอล พานาดอล บีรามอล ซีตามอล อาคามอล ที่รู้จักกันดีนั่นแหละ) ปวดเมื่อไหร่ก็หยิบมาทานได้ทันที (แต่ต้องอ่านฉลากให้แม่นก่อนนะ Safety First!) โดยยาพาราเซตามอลจะช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นเฉียบพลันจากการเกร็งกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดหัวจากความตึงเครียดในชีวิตประวันได้อีกด้วย

 

 

resized_topic_4_photo_copy.jpg

 

 

ในเมื่อปัญหาฝนตก รถติด และมีผู้ใช้รถใช้ถนนพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องที่เราแก้ไขด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องอาศัยทริคการปรับพฤติกรรม และกินยาลดปวดไปก่อน

รับรองว่าวิธีที่แนะนำไปข้างต้น นอกจากจะช่วยคลายความปวดเมื่อยและลดปัญหาสุขภาพแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วยนะ

ตรวจสอบเนื้อหาโดย
พญ.ปรารถนา ปันทะ
นายแพทย์ชำนาญการ

ข้อมูลอ้างอิง

https://kdmshospital.com/article/sciatica-pain/

https://www.doctor.or.th/article/detail/5706

https://mazdacity.co.th/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0...

https://www.nakornthon.com/article/detail/%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0...