Skip to main content
Search
Search

ภูมิแพ้ในเด็ก เรื่องไม่เล็กที่พ่อแม่ต้องรู้

header_website.png

no.43_phuumiaephainedk_eruuengaimelkthiiphaemtngruu_aw.jpg

 

ถ้าลูกน้อยน้ำมูกไหล ไอจามฟุดฟิด มีผื่นขึ้นตามตัวบ่อย ๆ หรือเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ต้องสงสัยโรคอื่นเลยค่ะ มันคืออาการของโรคภูมิแพ้แน่นอน โรคนี้พบบ่อยในเด็กวัยแรกเกิดจนถึงเด็กโต ซึ่งปัจจุบันเด็กมีแนวโน้มเป็นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าตกใจทีเดียว แต่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด
ก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ และเรียนรู้วิธีดูแลลูกอย่างถูกต้องนะคะ แล้วลูกน้อยของเราจะแข็งแรง ปลอดภัย เติบโตสมวัยค่ะ

 

โรคภูมิแพ้เป็นอย่างไร เอาชนะได้ไหม

โรคภูมิแพ้คืออาการที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ไวผิดปกติ จนทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะที่สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นนั้น ๆ อาการภูมิแพ้ที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่

  • ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกใส คันจมูก หอบหืด
  • ภูมิแพ้ทางตา เช่น คันตา ตาแดง น้ำตาไหล แสบตาและมีขี้ตา
  • ภูมิแพ้ทางเดินอาหาร เช่น แพ้อาหาร อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
  • ภูมิแพ้ทางผิวหนัง เช่น ลมพิษ หนังตาและริมฝีปากบวม เด็กเล็กมักมีผื่นคันขึ้นที่แก้ม หน้าผาก หนังศีรษะ ข้อศอก หัวเข่า ส่วนเด็กโตมักพบบริเวณข้อพับแขน ขา ข้อเท้า รวมถึงมือและเท้า

 

สาเหตุที่ทำให้เด็กเป็นโรคภูมิแพ้ หลัก ๆ เลยก็คือพันธุกรรมค่ะ ถ้าพ่อแม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเป็นสูงมาก รองลงมาคือ เด็กไม่ได้กินนมแม่ในช่วงอายุ 6 เดือนแรก อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีสารก่อภูมิแพ้เป็นจำนวนมาก เช่น เลี้ยงสัตว์ในบ้าน มีแมลงสาบชุกชุม
ปูพรมบนพื้น จุดธูปเทียนบ่อย ที่นอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ผ้าม่านไม่ค่อยซัก ได้รับมลพิษทางอากาศ เช่น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม และฝุ่น PM 2.5

 

การรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ นอกจากให้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และใช้ยาชนิดต่าง ๆ แล้ว แพทย์อาจทดสอบภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด ทดสอบทางจมูกกรณีเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือทดสอบทางผิวหนัง (Skin Prick Test) เพื่อให้ทราบว่าแพ้สารชนิดใด แต่โดยทั่วไปจะนิยมทดสอบทางผิวหนังมากกว่าค่ะ เพราะทำง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง เมื่อพบปฏิกิริยาในการแพ้สารบนผิวหนังแล้ว ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยตรง และช่วยให้ควบคุมรักษาโรคดีขึ้นด้วย นอกจากนี้การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะคะ แพทย์จะฉีด สารสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณจนผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่อสารนั้น ซึ่งจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อรับวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 3-5 ปี และยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสหายขาดค่ะ

 

 

7 วิธีดูแลลูกน้อย ให้ห่างไกลภูมิแพ้

1. หมั่นทำความสะอาดและกำจัดฝุ่นในบ้านเป็นประจำ โดยเฉพาะที่นอน หมอน ผ้าห่ม ต้องทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์
2. หลีกเลี่ยงพรมปูพื้น ตุ๊กตาขนปุย ควันบุหรี่ จุดธูปเทียน เลี้ยงสัตว์ในบ้าน
3. กำจัดเศษอาหารและขยะต่าง ๆ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงสาบ
4. ไม่ควรให้บ้านและห้องน้ำอับชื้น เพราะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตและฟุ้งกระจาย
5. ใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน และล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
6. ให้ลูกออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากมีอาการหอบเหนื่อยระหว่างออกกำลังกาย ควรพ่นยาขยายหลอดลมก่อนประมาณ 15-30 นาที
7. ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนเยอะ ๆ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้

 

ภูมิแพ้เป็นโรคที่รบกวนชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก และอาจเป็นปัญหาเรื้อรังถ้าขาดการดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นการดูแลสุขภาพลูกให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และพาไปพบแพทย์สม่ำเสมอ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้ลูกสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วๆ ไปค่ะ

 

บทความนี้ตรวจสอบความถูกต้องโดยแพทย์ชำนาญการ