Skip to main content
Search
Search

ทำอย่างไรไม่ให้ลูกฟันผุ

header_website.png

no.9_thamyaangairaimaihluukfanphu.jpg

 

 

ถึงแม้ว่าโรคฟันผุและปัญหาต่าง ๆ ในช่องปาก มักพบมากในเด็กแทบทุกช่วงวัยในปัจจุบัน ซึ่งตัวการหลักก็คือ ลูกอม ขนมหวาน ของโปรดของเด็ก ๆ นั่นเอง แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับลูกน้อยได้นะคะ อันดับแรก ลองมาทำความรู้จักโรคฟันผุและวิธีป้องกันที่ถูกต้องกันก่อนเลยค่ะ

ฟันผุคืออะไร?
ฟันผุเกิดจากผิวฟันถูกกรดกัดกิน กรดพวกนี้จุลินทรีย์ในปากของเราสร้างขึ้นเพื่อย่อยเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน โดยเจ้ากรดนี้จะทำลายชั้นเคลือบฟันและชั้นเนื้อฟันที่อยู่ลึกลงไปให้เป็นรู จนลุกลามไปถึงโพรงประสาทฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ปวดฟันนั่นเองค่ะ อาการต่อไปนี้เป็นสัญญาณเตือนฟันผุที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกต ถ้าหากลูกมีอาการเมื่อไหร่ ต้องพาไปพบทันตแพทย์ทันทีค่ะ

  • เสียวฟันเมื่อกินของร้อน เย็น และหวาน
  • ปวดฟันเมื่อกัดหรือเคี้ยวอาหาร
  • มีคราบติดอยู่ในหลุมร่องฟัน ฟันเป็นรู ฟันโยกคลอน
  • เหงือกบวมแดง มีเลือดออก
  • เจ็บเหงือก มีหนองออกจากร่องเหงือก ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น

อะไรที่ทำให้ฟันผุ?
คราบจุลินทรีย์เป็นสาเหตุของฟันผุ ซึ่งเกิดจากเมือกของน้ำลายและเชื้อจุลินทรีย์มากมายในปาก มาสะสมทับถมกันอยู่บนตัวฟันและขอบเหงือก เชื้อจุลินทรีย์จะย่อยเศษอาหารให้กลายเป็นกรดแลคติก เจ้ากรดนี้เองที่เป็นตัวการทำลายฟัน ถ้าไม่ค่อยทำความสะอาดเหงือกและฟัน คราบจุลินทรีย์จะยิ่งสะสมหนากลายเป็นหินปูน ทีนี้ต่อให้แปรงฟันแรง ๆ ก็กำจัดหินปูนไม่ได้นะคะ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางของทันตแพทย์เท่านั้น

 

 

no.9.1_thamyaangairaimaihluukfanphu.jpg

 

 

5 วิธีง่าย ๆ ช่วยป้องกันฟันผุให้ลูกน้อย

  1. แปรงฟัน ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนเข้านอน เพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ออกจากฟัน ถ้าลูกยังแปรงเองไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยแปรงไปก่อนจนกว่าลูกโตพอที่จะแปรงเองได้อย่างถูกวิธี
  2. กินอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งที่ลูกกินมีผลต่อสุขภาพฟัน น้ำตาลในอาหารก่อให้เกิดกรดที่ทำให้ฟันผุ โดยเฉพาะน้ำตาลในขนมหวาน ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ ควรให้ลูกแปรงฟันหรือบ้วนปากด้วยน้ำทุกครั้งหลังกินเสร็จ
  3. เลือกดื่ม ไม่เพียงแต่อาหารที่เป็นแหล่งของกรด เครื่องดื่มต่าง ๆ ก็มีน้ำตาลที่ก่อให้เกิดกรดหากทิ้งไว้ในปากนาน ๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำหวานต่าง ๆ ถ้าจะให้ดี ควรห้ามลูกดื่มน้ำอัดลมไปเลย เพราะมีน้ำตาลและกรดคาร์บอนิกสูงซึ่งทำลายผิวฟันได้ นอกจากนี้การปล่อยให้ลูกดูดนมจนหลับคาขวดนมหรือนมแม่ ก็ทำให้ฟันผุเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ ควรให้ลูกเลิกดูดขวดนมเมื่ออายุไม่เกิน 1 ขวบ
  4. ฟลูออไรด์ ฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ โดยไปขัดขวางการย่อยอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ และช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้แก่เคลือบฟัน สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 8 ขวบ ควรระวังการได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินไปด้วยนะคะ เพราะถ้าได้รับปริมาณมากเป็นเวลานาน จะทำให้สีของฟันแท้ที่กำลังจะสร้างอยู่เปลี่ยนไป เรียกว่า ฟันตกกระ (fluorosis)
  5. ไปหาหมอฟัน พยายามให้ลูกคุ้นเคยกับหมอฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ และควรไปตรวจต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาในช่องปากของลูกก่อนถึงขั้นร้ายแรงค่ะ

การมีสุขภาพฟันและเหงือกที่ดี เป็นของขวัญสุดวิเศษที่คุณพ่อคุณแม่มอบให้แก่ลูก ๆ ได้ ดังนั้นเรามาช่วยกันดูแลรักษาอนามัยในช่องปากของลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ และฝึกให้เขาแปรงฟันสม่ำเสมออย่างถูกวิธีกันดีกว่านะคะ เพื่อลูกจะได้มีเหงือกและฟันสวย แข็งแรง ตลอดไป

เรียบเรียงโดย
พญ.ปรารถนา ปันทะ
นายแพทย์ชำนาญการ