header_website.png

no.18-thnchil-akesb-ainedk-aw.jpg

เคยมีประเด็นถกเถียงกันอยู่ช่วงหนึ่งในโลกออนไลน์ เรื่องดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีเวลาเป็นทอนซิลอักเสบ แล้วผลก็ออกมาว่าการดื่มน้ำเย็นหรือกินของเย็น ๆ จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ดีกว่า พลิกล็อกไปจากความเชื่อเดิม ๆ ของใครหลายคนเลยใช่ไหมละคะ งั้นต่อจากนี้ถ้าลูกเป็นทอนซิลอักเสบก็จัดไอศกรีมเลยสิคะ รออะไร ต่อมทอนซิลอักเสบในเด็กมักพบบ่อยช่วงอายุก่อน 10 ขวบ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่ค่อยแข็งแรง จึงทำให้เจ็บป่วย ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นถ้าหากลูก ๆ ในวัยนี้บ่นเจ็บคอละก็ คุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจ ควรสังเกตดูว่าลูกมีอาการต่อมทอนซิลอักเสบหรือไม่ จะได้ดูแลอย่างถูกต้องและรีบพาไปรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ
อยากรู้จัง อะไรนะที่ทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบ
สำหรับเด็กเล็กส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคหวัด ซึ่งติดต่อกันได้ง่ายเวลาไอจาม เพราะอยู่รวมกันมาก ๆ ในโรงเรียนอนุบาลหรือสถานรับเลี้ยงเด็กนั่นเองค่ะ อาการก็จะคล้ายหวัด มีน้ำมูก ไอ เสียงแหบ เจ็บคอ ตาแดง มีไข้ ปวดศีรษะเล็กน้อย เพิ่มเติมคือกลืนเจ็บ มีน้ำลายไหลมากผิดปกติ ไม่กินอาหาร อาจปวดหูปวดท้องร่วมด้วย ส่วนเด็กโตและผู้ใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่า อาการโดยรวมคล้ายทอนซิลอักเสบจากไวรัส แต่แตกต่างกันที่ทอนซิลจะอักเสบเป็นหนองหรือบวมแดงชัดเจน มีไข้สูงมากกว่าการติดเชื้อไวรัส บางรายก็มีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
ส่วนวิธีป้องกันนั้นแสนจะง่าย เด็ก ๆ ทำได้ค่ะแค่เราคอยช่วยเตือน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ดื่มน้ำมาก ๆ
- อย่าอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือใช้ของร่วมกัน
- หมั่นล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจติดมากับมือ
no.18-thnchil-akesb-ainedk-pic.jpg

ทอนซิลอักเสบทำให้ลูกน้อยทรมานน่าดู แล้วจะรับมือยังไงดี
เมื่อลูกมีอาการไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูกใส คุณพ่อคุณแม่ลองให้ลูกอ้าปากกว้าง ๆ แล้วใช้ไฟฉายส่องภายในลำคอดูนะคะ ถ้าหากต่อมทอนซิลโตเพียงเล็กน้อย อาการยังไม่รุนแรง การดูแลเบื้องต้นทำง่าย ๆ โดยให้ลูกนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวหรือกินไอศกรีมเย็น ๆ กินอาหารรสอ่อน ๆ อย่างข้าวต้มหรือโจ๊ก กลั้วคอด้วยน้ำเกลือหรือแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ และเช็ดตัวร่วมกับให้ยาน้ำลดไข้เด็กพาราเซตามอล ก็จะทำให้ลูกหายได้เช่นเดียวกับโรคหวัดธรรมดา แต่ถ้าลูกมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ค่ะ
- เจ็บคอมาก กลืนลำบาก กินอาหารได้น้อยหรือกินไม่ได้
- ทอนซิลบวมแดงมาก และมีจุดหนองสีขาว ๆ
- หายใจลำบาก มีน้ำมูกหรือเสมหะข้นสีเหลืองหรือเขียว ต่อเนื่องกันเกิน 24 ชั่วโมง
- ต่อมน้ำเหลืองรอบคอและใต้ขากรรไกรบวมโต
- ไข้สูงและไข้ไม่ลดภายใน 48 ชั่วโมง หรืออาการต่าง ๆ แย่ลง
นอกจากเจ็บคอแล้วยังมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ด้วยนะ
กรณีที่มีสาเหตุจากไวรัส ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าเกิดจากเชื้อแบคทีเรียแพทย์จะให้กินยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง 7-10 วัน หรืออาจให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรณีเจ็บคอมากจนกินอาหารไม่ได้และมีไข้สูง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งมักเกิดหลังทอนซิลอักเสบ 1-4 สัปดาห์
- หูชั้นกลางอักเสบ จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ
- สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียชนิด group A Streptococcus หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรือได้รับยาปฎิชีวนะไม่เพียงพอ ไตอาจอักเสบเฉียบพลัน เป็นไข้รูมาติกหรือเกิดโรคหัวใจรูมาติกตามมาได้
จริง ๆ แล้วทอนซิลอักเสบไม่ได้เป็นโรคอันตรายร้ายแรง ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่คอยสังเกตอาการและดูแลลูกน้อยอย่างถูกต้อง แต่ถ้ามีอาการที่สงสัยว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อจะได้รับยาปฏิชีวนะอย่างรวดเร็ว ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้ค่ะ
เรียบเรียงโดย
พญ.ปรารถนา ปันทะ
นายแพทย์ชำนาญการ