Skip to main content
Search
Search

วัคซีนที่เด็กจำเป็นต้องฉีด มีอะไรบ้าง?

header_website.png

no.26_wakhchiinthiiedkcchamepn_aw.jpg

 

 

ปกติเด็กมักมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาค่ะที่ร่างกายจะไวต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งถึงแม้เขาจะมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ และได้รับเพิ่มจากการกินนมแม่แล้วก็ตาม แต่เพราะภูมิคุ้มกันนี้อยู่ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น เด็กจึงต้องได้รับวัคซีนเพิ่ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายปลอดภัยในระยะยาวนั่นเองค่ะ

วัคซีน ฮีโร่ที่ช่วยปกป้องเด็ก ๆ

สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้เด็กแต่ละวัยรับวัคซีนป้องกันโรคอันตรายดังนี้ค่ะ

เด็กแรกเกิด

  • วัคซีนป้องกันวัณโรค(BCG) ฉีดให้เด็ก 1 เข็มก่อนออกจากโรงพยาบาล ช่วยป้องกันวัณโรคชนิดรุนแรงในกลุ่มเด็ก ได้แก่ วัณโรคเยื่อหุ้มสมอง และวัณโรคชนิดแพร่กระจาย
  • วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) เข็มที่ 1 ฉีดภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด ช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ที่เป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ

เด็กวัย 1 เดือน

  • วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) เข็มที่ 2

เด็กวัย 2 เดือน

  • วัคซีนรวม 5 โรค ได้แก่ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ เข็มที่ 1
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 1
  • วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 1
  • วัคซีนนิวโมค็อกคัสชนิดคอนจูเกต (PCV) เข็มที่ 1 (วัคซีนเสริม)

เด็กวัย 4 เดือน

  • วัคซีนรวม 5 โรค ได้แก่ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ เข็มที่ 2
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 2
  • วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 2
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดฉีด
  • วัคซีนนิวโมค็อกคัสชนิดคอนจูเกต (PCV) เข็มที่ 2 (วัคซีนเสริม)

เด็กวัย 6 เดือน

  • วัคซีนรวม 5 โรค ได้แก่ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ เข็มที่ 3
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 3
  • วัคซีนโรต้า ครั้งที่ 3
  • วัคซีนนิวโมค็อกคัสชนิดคอนจูเกต (PCV) เข็มที่ 3 (วัคซีนเสริม)
  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เข็มที่ 1 ให้เข็มที่ 2 ห่างกัน 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นปีละ 1 ครั้ง (วัคซีนเสริม)

เด็กวัย 9-12 เดือน

  • วัคซีนรวมหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เข็มที่ 1 (อายุ 9 เดือน)
  • วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) เข็มที่ 1 ให้เข็มที่ 2 ห่างกัน 4 สัปดาห์ (อายุ 12 เดือน)
  • วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส (VZV) (อายุ 12 เดือน) (วัคซีนเสริม)

เด็กวัย 18 เดือน

  • วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-โปลิโอ เข็มที่ 4
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 4
  • วัคซีนตับอักเสบเอ (HAV) เข็มที่ 1 ชนิดไม่มีชีวิต ให้เข็มที่ 2 ห่างกัน 6-12 เดือน (วัคซีนเสริม)
  • วัคซีนนิวโมค็อกคัสชนิดคอนจูเกต (PCV) เข็มที่ 4 (วัคซีนเสริม)

เด็กวัย 2-6 ปี

  • วัคซีนรวมหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เข็มที่ 2 (อายุ 2-2½ ปี)
  • วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) เข็มที่ 3 (อายุ 2-2½ ปี)
  • วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน เข็มที่ 5 (อายุ 4-6 ปี)
  • วัคซีนป้องกันโปลิโอ ชนิดรับประทาน ครั้งที่ 5 (อายุ 4-6 ปี)

เด็กวัย 11-12 ปี

  • วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน กระตุ้น 1 เข็ม จากนั้นฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยักกระตุ้นทุก 10 ปี
  • วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดยฉีด 3 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน ฉีดได้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย

 

 

no.26_wakhchiinthiiedkcchamepn_pic.jpg

 

 

ข้อควรระวังที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้

  • ถ้าหากป่วยหรือมีไข้ ควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อน
  • ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้งหากมีโรคประจำตัว แพ้อาหาร หรือแพ้ยา
  • หลังรับวัคซีน ควรรอสังเกตอาการก่อนกลับบ้านประมาณ 30 นาที เผื่อเด็กมีอาการแพ้จากการรับวัคซีน
  • ถ้าไม่ได้รับวัคซีนต่อเนื่องตามกำหนด ให้มารับวัคซีนต่อไปได้เลยทันที ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
  • วัคซีนบางชนิดอาจทำให้เด็กมีไข้ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ยาน้ำลดไข้เด็กพาราเซตามอล และเช็ดตัวลูกได้ตามปกติ แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง แต่ถ้าหากลูกมีอาการชัก มีไข้สูงมาก ควรพาไปพบแพทย์ทันทีค่ะ

วัคซีนมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับเด็ก ๆ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ละเลย ไม่พาลูกไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนด อาจทำให้ลูกเสี่ยงต่อโรค และเจ็บป่วยจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

เรียบเรียงโดย
พญ.ปรารถนา ปันทะ
นายแพทย์ชำนาญการ